“วัดหัวถนน” จัดงานทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2562 สมทบทุนบูรณะกุฏิ ประชาชนแห่ร่วมเป็นเจ้าภาพคับคั่ง
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=KxFZmz5IjHw[/embedyt]
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 ที่วัดหัวถนน อ.ตำบลหัวถนน อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี “พระปลัดจรวด มหาปุญฺโญ”เจ้าคณะตำบลสระสี่เหลี่ยม เจ้าอาวาสวัดหัวถนน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในงานกฐิน โดยมีเหล่าพุทธศาสนิกชนชาว ต.หัวถนน และละแวกใกล้เคียง รวมทั้งจาก จ.อยุธยา จ.นครปฐม และกรุงเทพมหานคร เดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยในพิธีทอดกฐินมีผู้ร่วมเป็นประธานฝ่ายฆราวาสอันประกอบไปด้วย
1.ครูเครือวัลย์ รอดร่วมบุญ
2. นางทวาย รอดรวมบุญ
3.นายนพรัตน์ รอดร่วมบุญ
4.นายอุดม นิรนพรัตน์
5.นายเอกวัส อุษณีพันธุ์
6.นางสุภัทรา ทรัพนภาภรณ์
7.นายประสิทธิ์ บุญชัยสูง
8.นายนพดล แก้วสุข
9.คุณนุชรี ไวปัญญา
10.นางสมัย เลิศพันธุ์ลักษณ์
นอกจากนี้ ยังมีกองผ้าป่าสามัคคีร่วมสมทบกองกฐินในครั้งนี้อีกส่วนหนึ่งด้วย ส่วนบรรยากาศภายในวัดมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมงานกฐิน ตลอดจนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ทราบหมายกำหนดการ รวมตัวกันมาตั้งโรงทานกว่า 60 ร้านค้า เพื่อแจกอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิดให้กับผู้เดินทางมาร่วมงานฟรีอีกด้วย โดยยอดเงินที่ได้จากการทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 1,165,839 บาท
สำหรับ “ชุมชนหัวถนน”เป็นชุมชนเล็กๆเงียบสงบแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ตำบลหัวถนน อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี แต่เดิมที่นี่เป็นชุมชน ของพี่น้องชาวลาวเวียง หรือพี่น้องชาวเวียงจันทน์ที่อพยพมาจากประเทศลาวเมื่อครั้งที่มีการสู้รบในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และเป็นที่ตั้งของวัดหัวถนนวัดเก่าแก่กว่า 200 ปี
“พระปลัดจรวด มหาปุญฺโญ”เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันเล่าให้ฟังว่า “วัดหัวถนน ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2360 โดยมีองค์ “หลวงพ่อติ้ว” เป็นสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งชาวบ้านนิยมมากราบไหว้ขอพร สำหรับงานบุญกฐินนั้นเป็นเรื่องของความเก่าแก่ ซึ่งคนไทยนั้นก็อยู่กันด้วยความเก่าแก่มีบรรพระบุรุษสืบทอดกันมาช้านาน สำหรับงานวันนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาด ไม่คิดว่าญาติโยมจะมาเยอะมากขนาดนี้ ส่วนโรงทานญาติโยมก็มาช่วยกันโดยไม่ได้ไปร้องขอ รวมตัวมากันเองกว่า 60 ร้าน
รวมทั้งที่มาจากอยุธยา นครปฐม และกรุงเทพฯ ทุกวันนี้ ทุกวันนี้ คนเข้าวัดกันน้อย เพราะไปหลงอยู่กับกระแสอะไรต่างๆ เด็ก ๆ ก็ห่างวัดไป จึงอยากให้เด็กเยาวชนหันมาเข้าวัด ส่วนพ่อแม่นั้นยามที่พาเด็กมาวัดก็อย่าได้ไปดุด่าว่าเด็กมาก เด็กๆ จะซุกซนก็เป็นธรรมชาติของเขา โดยเฉพาะ ผู้ชายมีโอกาสมาวัดน้อยอยู่แล้ว พอมาเข้าวัดทำอะไรผิดหน่อย อย่างทำแก้วแตก เมียก็ด่า อันนี้ ก็อย่าไปตำหนิเขามากประเดี๋ยวจะหันไปที่อื่นแทน อันนี้ อยากจะฝากเอาไปคิดกัน สำหรับงานวันนี้ก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ได้ปัจจัยตั้งต้นล้านกว่าบาทเอาไว้สำหรับบูรณะกุฏิเก่าแก่อายุ 50 ปี ก็ต้องขอบใจญาติโยมที่ร่วมแรงร่วมใจกันในครั้งนี้ ขอให้เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพกันทุกคน
ทางด้าน นายสฤษฎ์ รอดร่วมบุญ ชาวตำบลหัวถนน กล่าวว่า ผมเกิดที่ ต. หัวถนน เกิดมาก็ได้เห็นองค์หลวงพ่อคิ้วเลย ผมเกิดที่นี่โตที่นี่เป็น รุ่นน้องของเจ้าอาวาส ถามว่าทำไมศรัทธาองค์หลวงพ่อติ้ว ผมเคยถูกลอบยิงแต่อยู่รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้ เพราะหลวงพ่อติ้วติดตัว ก่อนหน้านี้ผมไม่สบายป่วยนอนโรงพยาบาลอยู่ 4 เดือน หายป่วยกลับมาได้คิดอยากหยุดทำงาน เลยมาบนขอหลวงพ่อติ้วให้ขายที่ได้ และก็ขายได้ จึงรวบรวมเงินได้ 6 แสนบาท เพื่อมาทำบุญทอดกฐินในครั้งนี้ ด้วยแรงศัทธา ด้วยความเคารพต่อหลวงพ่อติ้วมาตั้งแต่เกิดจนอายุ 59 ปี วันนี้ ก็ยังศรัทธาอยู่ หากพุทศาสนิกชนท่านใดมีโอกาสเดินทางผ่านมาวัดหัวถนน ก็ของเชิญชวนแวะมากราบไหว้ขอพร อยากให้มาลองมาอธิฐานจิตดูหลวงพ่อติ้วช่วยได้ครับ